วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการทำงานร่วมกับชาวบ้านและภาคี



เจ้าของความรู้   นางอนัญพร  ลีรัตนชัย
ตำแหน่ง        นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด     สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
เบอร์โทรศัพท์    0-8993-9848-8 
ชื่อเรื่อง      เทคนิคการทำงานร่วมกับชาวบ้านและภาคี 
 
เนื้อเรื่อง...จากคำกล่าวโบราณที่ว่าไว้ว่า คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หลายคนทุกอย่างสบาย” (ประโยคที่ 3 ข้าพเจ้าคิดเอง) ซึ่งเป็นคำพูดที่จริงแท้แน่นอน เพราะการจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราจะทำคนเดียวไม่ได้ ถึงทำได้ก็ไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรเสียเพื่อนร่วมงาน ย่อมมีส่วนสำคัญช่วยให้งานทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และ   ที่สำคัญคือการรู้เขารู้เรา และมธุรสวาจา  จะทำให้การประสานการทำงานเป็นไปด้วยความชื่นมื่น และงานต่างๆ    จะสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการและที่สำคัญที่สุดคือ  ผู้ร่วมงานทุกคนจะรู้สึกภาคภูมิใจกับผลงานเหล่านั้นเพราะทุกคนมีส่วนร่วม

ทุกคนเมื่อทำงาน...ย่อมมีผลงานที่ความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะกับประชาชน ผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของตำบลคลองอุดมชลจร และตำบลคลองนครเนื่องเขตผลการปฏิบัติงานของข้าพเจ้า คือการได้รับความไว้วางใจและที่สำคัญคือ เวลาที่ประชาชนหรือผู้นำชุมชนตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่ง เขาเหล่านั้นจะนึกถึง ข้าพเจ้าก่อนคนอื่น ทั้งนี้เป็นเพราะข้าพเจ้าเองไม่เคยปฏิเสธงานที่เขาเหล่านั้นขอความช่วยเหลือ  และที่สำคัญข้าพเจ้ายึดหลักการทำงานโดยความซื่อสัตย์สุจริตไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน  แม้ในบางครั้งเขาเหล่านั้นจะตอบแทนด้วยสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยรับ  แต่จะบอกเขาเหล่านั้นไปว่า  พี่ยินดีช่วยเหลือเพราะนั่นมันเป็นงานในหน้าที่อย่างหนึ่งที่พี่ต้องอำนวยความสะดวกและจัดทำให้ท่านอยู่แล้ว  เอาอย่างนี้แล้วกันเอาไว้เวลามีงานทางราชการเร่งด่วนและจำเป็น       ที่พี่ต้องการความช่วยเหลือท่านก็ช่วยพี่บ้างก็แล้วกันนะ และมีการพูดหยอกเย้ากลับไปบ้างเพื่อสร้างความคุ้นเคยเพิ่มขึ้น  เช่น 
เวลาพี่ต้องการความช่วยเหลือก็มีแต่ท่านนี่แหละช่วยได้”

แต่ถึงแม้เขาเหล่านั้น...พร้อมที่จะช่วยเหลือเราทุกเรื่องที่เราร้องขอ  แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกับชาวบ้าน  ข้าพเจ้าก็ไม่เคยร้องขออะไรจากเขาเหล่านั้น  จนบางครั้งผู้นำหลายคนถามว่ามีอะไรให้ช่วยบ้างไหม  ข้าพเจ้าก็จะตอบว่า  ตอนนี้พี่ยังไม่รบกวน   เอาไว้มีงานจำเป็นแล้วพี่คงต้องรบกวนบ้าง เมื่อถึงตอนนั้นแล้วพี่จะบอกงานในพื้นที่  มีงานอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับสภาวะการในปัจจุบัน ผู้นำท้องถิ่นก็มีงานที่ต้องปฏิบัติเร่งด่วนด้วยกันทั้งนั้น  ผู้ใหญ่บ้าน/กำนันก็ได้รับการสั่งการในเรื่องเร่งด่วนที่ต้องปฏิบัติ  โดยที่งานบางอย่างที่ได้รับคำสั่ง เขาเหล่านั้นก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร  ข้าพเจ้าก็จะแสดงน้ำใจโดยการสอนงานให้กับเขาจนในบางครั้งเขาเหล่านั้นก็บอกว่า
“พี่ช่วยทำให้หน่อยได้ไหม” ข้าพเจ้าก็ไม่อยากทำให้หรอกนะ แต่ก็ขัดไม่ได้ก็ต้องทำให้  แต่จะให้เขามาทำกับเราด้วย โดยบอกว่าพี่อยากทำให้ทั้งหมดนี่แหละ แต่ถ้าทำให้พวกเราก็จะทำไม่เป็นแล้วถ้าพี่ย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่มีคนทำให้ พวกเราก็จะลำบาก  เขาก็เข้าใจ  และนี่แหละคือความสำคัญเล็กๆ น้อยๆที่สะสมเอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการทำงานภายหน้าของข้าพเจ้าเอง 

 
การออกไปพื้นที่...ข้าพเจ้าจะมีของกิน (ของแห้ง) น้ำดื่ม ของใช้ที่จำเป็น  แม้แต่เสื้อผ้าที่เรา ไม่ใช้แล้วแต่ยังดูดีอยู่  ซึ่งจะเป็นชุดทำงานของข้าพเจ้า สามี และของลูกสาว  ติดรถไปด้วยเสมอ  เพราะเวลาออกไปจะพบคนยากจน  คนชราเราก็เอาไปฝากเขาหรือคนทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อช่วงน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา แต่การที่จะให้อะไรใครเราก็ต้องดูว่าผู้รับเขาอยากได้ไหม  เพราะการให้บางครั้งผู้รับอาจจะคิดว่าเป็นการดูถูกเขา (เราต้องคิดให้รอบคอบก่อนให้ทุกครั้ง) บางทีก็จะบอกว่า มีเสื้อผ้าในรถ เป็นของใช้แล้วแต่ยังดีอยู่ลอกเลือกดูชอบก็เอาไปแล้วกัน

และสิ่งที่ภาคภูมิใจในขณะนี้คือ... เรื่องการสนับสนุนค่าจัดเก็บและบันทึกข้อมูล จปฐ.ปี 2555
ซึ่งยังมีความไม่แน่ใจว่า อบต.จะให้การสนับสนุนได้หรือไม่ได้  ซึ่งเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนผู้ประสานตำบลทุกคนกำลังเป็นทุกข์  บางคนเครียดมากๆ รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย (นี่แหละชีวิตพัฒนากรยุค
IT)  ข้าพเจ้าก็จับเข่าคุยกับปลัด อบต.เรื่องนี้  ซึ่งพอข้าพเจ้าพูดว่าปลัดพี่อยากจะคุยเรื่องเงินจัดเก็บและบันทึกข้อมูล จปฐ.ปีนี้สักหน่อย ปลัดพอมีเวลาคุยกับพี่ไหม  ท่านปลัดก็ตอบในทันทีว่า  ผมมีเวลาสำหรับพี่ตลอดแหละ เรื่อง จปฐ. พี่ไม่ต้องกังวล พี่สบายใจได้เลย  ไม่ต้องคิดมาก ผมมีวิธีดำเนินการเบิกจ่ายในเรื่องนี้อยู่แล้ว” และแถมท้ายอีกว่า  พี่มีอะไรให้ อบต.ช่วยบอกล่วงหน้านะผมจะได้จัดหางบประมาณเพื่อสนับสนุนเพราะ อบต. มีงบประมาณในเรื่องทั่วไปอยู่บ้าง พี่ช่วยงานผมไว้เยอะ  ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าหมดห่วงไปแล้ว 1 ตำบล  และคาดว่าอีก 1 ตำบลก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะ อบต.เบิกจ่ายเอง ไม่ใช่การสนับสนุนหน่วยงาน  (คิดเข้าข้างตนเองหรือเปล่าเอ่ย)

ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าการทำงานทุกอย่างจะสำเร็จได้...  อยู่ที่ตัวเราเองเป็นสำคัญ ที่ว่าตัวเราเองนั้น  หมายถึง ตัวเราต้องมีความจริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน พร้อมที่จะเสียสละเล็กๆน้อยๆเพื่อความสำเร็จ
ของงานในอนาคต รู้เขา รู้เรา  ต้องมีกลยุทธ์ กลวิธีในการทำงาน  และที่สำคัญ ต้องสร้าง
  พระคุณ” และในบางครั้งที่ว่างเว้นจากการทำงาน ข้าพเจ้าทบทวนถึงผลการทำงานที่แล้วๆมา  และนึกภาคภูมิใจกับการทำงานของตนเองเล็กๆ ว่า เก่งจริงๆ เลยนะ...?...พวกพัฒนากร.....มัน...!
..ทำได้ทุกเรื่องซิน่า”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น