รู้ ๓ เทคนิคการวางแผนและจัดทำโครงการ
๑. รู้ประเภทโครงการ (แก้ปัญหา ป้องกันปัญหา พัฒนา)
- รู้ลักษณะโครงการ (ทำกับคน / ทำกับสิ่งของ สถานที่ พืช สัตว์)
๒. รู้เทคนิคการวางแผนและจัดทำโครงการ
|
|
|
|
อริยสัจสี่กับกระบวนการแก้ปัญหาเทคนิคการเขียนโครงการ
๑. ชื่อโครงการ
- ระบุให้สอดคล้องกับกิจกรรม เป้าหมาย วัตถุประสงค์
- ใช้คำกิริยา ส่วนมากมาจากงานที่ต้องปฏิบัติ (กิจกรรมหลัก)
- เขียนให้ชัดเจนว่า จะทำอะไร แก่ใคร เรื่องอะไร
๒. หลักการและเหตุผล
- ระบุความเป็นมาของโครงการตามนโยบาย แผน มติ ครม.
- ระบุสภาพปัจจุบัน
- ระบุสภาพปัญหา/ความต้องการ สาเหตุต่าง ๆ และความจำเป็นที่ต้องจัดทำโครงการ (เกิดปัญหาอะไร กับใคร ที่ไหน เมื่อใด โดยมีสาเหตุมาจากอะไร)
- ต้องบอกถึงความจำเป็นที่ต้องจัดทำโครงการว่าได้ไม่ทำจะมีผลเสียหายอย่างไร ถ้าทำจะช่วยแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาอย่างไร
- ถ้าเป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนา จะต้องบอกหรืออธิบายได้ว่าจะพัฒนาอะไร เกี่ยวกับอะไร สำคัญอย่างไร มีหลักการอย่างไร มีหลักฐานอะไร มีข้อมูลและข้อสนเทศอะไรบ้าง น่าจะทำอะไร เหตุที่ต้องทำและมีความจำเป็นเพียงใด หากทำจะได้อะไร เป็นต้น
- ถ้าเป็นโครงการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา จะต้องบอกหรืออธิบายว่า อะไรคือปัญหา สำคัญขนาดไหน มีข้อมูล/ข้อเทศอะไรบ้าง มีหลักการ ทฤษฎี ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขอย่างไร คาดว่าน่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการใด อย่างไร แต่ยังไม่ได้ทำจึงได้เสนอโครงการขึ้นมา เป็นต้น
หลักการในการเขียน
ส่วนแรก หรือย่อหน้าที่ ๑ โดยทั่วไปมักจะกล่าวอ้างถึงนโยบาย มติ คำหลักที่ควรใช้ในส่วนที่ ๑ ....เนื่องด้วย จาก ตามที่ ปัจจุบัน
ส่วนแรก หรือย่อหน้าที่ ๒ มักจะกล่าวถึงสภาพปัญหาที่เป็นอยู่ ซึ่งหากไม่ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงแล้วย่อมจะทำให้ “ส่วนแรก” เกิดความเสียหายได้ คำหลักที่ควรใช้ในส่วนที่ ๒ ....ดังนั้น จึง โดย
ส่วนแรก หรือย่อหน้าที่ ๓ มักจะกล่าวถึงกิจกรรมที่โครงการนี้ควรดำเนินการ หรือหากดำเนินการแล้วจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร และเกิดประโยชน์กับใคร คำหลักที่ควรใช้ในส่วนที่ ๓ ....เพื่อให้เกิด เพื่อพัฒนา เพื่อสร้าง เพื่อเป็นประโยชน์
๓. วัตถุประสงค์โครงการ มีหลัก ๕ ข้อ
- ระบุถึงความสำเร็จหรือสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อทำกิจกรรมเสร็จและสิ้นสุดโครงการใครได้ประโยชน์อย่างไรจากโครงการ
- กรณีเป็นโครงการแก้ไขปัญหา เขียนให้อยู่ในรูปการลดหรือขจัดปัญหา ป้องกันปัญหา หรือพัฒนาสิ่งที่ต้องการเพิ่มขึ้น ไม่จำเป็นต้องเขียนหลายข้อ (ควรมี ๑-๓ ข้อ)
- เป็นการตอบคำถามทำไปทำไม เพื่อใคร (for whom)
- สอดคล้องกับกิจกรรมและเป้าหมาย ทำอย่างไร สิ่งที่ได้ นำไปใช้ประโยชน์
- ใช้หลักการ SMART
· ชี้ชัด เฉพาะเจาะจง ชัดเจน (S=Sensible and Specific)
· วัดได้ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ (M=Measurable) ๒Q๒TP
· ทำได้ สามารถปฏิบัติได้ (A=Attainable) กระทำได้จริง
· ไม่เพ้อฝัน ทำให้เป็นจริงได้ (R=Realistic)
· รู้วันเวลา มีกรอบเวลาชัดเจน (T=Time)
๔. เป้าหมายของโครงการ มีหลัก ๕ ข้อ
- เป็นผลที่มาจากการทำกิจกรรมหลัก รอง และสนับสนุน
- ตอบคำถามว่าได้อะไร จากการทำกิจกรรม
- เป็นผลงาน (Output) ที่เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงการ สามารถวัดได้ทันทีทันตา
- สอดคล้องระหว่างกิจกรรมและผลลัพท์ ทำอย่างไร สิ่งที่ได้ นำไปใช้ (ใคร)
- มีตัวชี้วัด ๔ มิติ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ เวลา และต้นทุน (QQCT)
๕. วิธีดำเนินการ
- ระบุกิจกรรมโครงการทั้งหมด
- ระบุขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรม
- ระบุกิจกรรมหลัก กิจกรรมรอง และสนับสนุน ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงกิจกรรมสุดท้าย ถ้าไม่เป็นโครงการที่ไม่ซับซ้อนมากนักจะนิยมใช้แผนภูมิเกณฑ์ (Gantt chart) หรือแผนภูมิแท่ง (Bar chart)
๖. ระยะเวลาดำเนินการ ระบุระยะเวลาเริ่มต้นโครงการและระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ
๗. สถานที่ดำเนินการ ระบุสถานที่ตั้งโครงการว่ากิจกรรมจะทำสถานที่ใด เพื่อสะดวกต่อการจัดเตรียมที่ก่อนดำเนินการ
๘. ผู้รับผิดชอบโครงการ เป็นการระบุว่าใคร หรือหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
๙. งบประมาณ
- เป็นการระบุค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการดำเนินกิจกรรมขั้นต่าง ๆ
- แยกเป็นหมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ / หมวดครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง
- ระบุแหล่งที่มาของงบประมาณแผ่นดิน งบเงินกู้ งบบริจาค งบเงินช่วยเหลือจากเอกชน หรือจากต่างประเทศ
๑๐. การประเมินผลโครงการ เป็นการแสดงรายละเอียดว่าจะมีวิธีการควบคุมติดตามผลและประเมินผลโครงการอย่างไร
- วิธีการประเมินผลโครงการ (๓ส ๑อ)
- ระยะเวลาประเมินผล
- ตัวชี้วัด ความสำเร็จของโครงการคือะไร
๑๑. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ระบุผลประโยชน์ที่กลุ่มบุคคลหรือพื้นที่หรือสังคมโดยรวมจะได้รับ
- ระบุผลกระทบในด้านบวกที่จะตามมาจากการมีโครงการ (Impact)
กรอบ ๕ ความ (๕C) ในการเขียนโครงการ
๑. ความถูกต้อง (Correct)
๑.๑ ความถูกต้องในรูปแบบ (Format)
- โครงสร้างครบถ้วน
- การจัดลำดับ เบื้องต้น-เนื้อหา-สรุป
- ความเชื่อมโยง เป็นตรรกะ
- แยกประเด็นชัดเจน
๑.๒ ความถูกต้องในเนื้อหา
- เป็นเหตุผล เชื่อมโยง ไม่วกวน
- รายละเอียดสัมพันธ์กับหัวข้อ
- เป็นข้อมูล-ข้อเท็จจริง-ความเห็น
๑.๓ ความถูกต้องในหลักภาษา (ใช้ภาษาเขียน ไม่ใช่ภาษาพูด / ตัวสะกด ประโยค หลักภาษา)
๒. ความชัดเจน (Clear)
- กระจ่างใจ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่สะดุด ไม่สงสัย
- กระจ่างตา เขียนหนังสือมีย่อหน้า แยกประเด็น (ไม่เขียนติดกัน)
๓. ความรัดกุม (Confirm)
- สามารถยันสิ่งที่เขียน ทั้งข้อมูล/ข้อเท็จจริง อ้างอิงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
- อ่านไม่ต้อง “ตีความ”
- สรุป ไม่เขียนลอย ๆ กว้างไป
๔. ความกระชับ (Concise)
- ๓ ความ : สั้น กระชับ กะทัดรัด
- ๔ ไม่ : ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่วกวน ไม่ซ้ำซาก ไม่ซ้ำกันในที่ใกล้กัน
- หลักเพื่อตอบ ใคร ทำอะไร ทำไม ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร (๖W ๒H)
๕. ความโน้มน้าว (Convince)
- เพื่อไปสู่จุดหมาย อย่างเพ้อฝันเกินจริง จริงใจ ภาษาจะงดงาม
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา
เป็นแนวทางการเขียนงานที่ดีมากครับ ผมได้ความรู้มากครับ
ตอบลบดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ตอบลบ