วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ก้าวแรกกับงานพัฒนากร

พัฒนากร ในความหมายที่ได้เรียนรู้กับการเริ่มต้นในงานพัฒนาชุมชน ก็คือ ผู้ที่จะต้องไปทำงานร่วมกับประชาชนในระดับตำบล หมู่บ้านและชุมชน ต้องเป็นผู้ที่คอยเอื้ออำนวยความสะดวกและประโยชน์แก่คนในชุมชน และเปิดโอกาสส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ ร่วมแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยตัวเองด้วยความเข้าใจและเข้าถึง อย่างแท้จริง เราในฐานะพัฒนากรจะต้องพยายามดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ในตัวของแต่ละบุคคล และชุมชนออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับชุมชนมากที่สุด ด้วยการที่เราจะต้องเป็นผู้คอยกระตุ้น แนะนำ ส่งเสริม สนับสนุน และนี่คือก้าวแรกของงานพัฒนากรที่จะต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และทำให้บรรลุผลให้ได้

นับตั้งแต่วันแรกที่ได้มาบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งพัฒนากรเต็มตัวในฐานะพัฒนากรน้องใหม่ สิ่งที่ต้องทำอย่างเป็นสิ่งแรกก็คือ การที่ต้องปรับตัวเข้ากับงาน เพื่อนร่วมงานและทำการศึกษาชุมชน เรียนรู้งานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และปรับความเข้าใจกับงานที่ทำ งานพัฒนาชุมชน ชื่อก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่า เป็นงานที่ต้องออกไปคิด ไปทำ ร่วมกับชาวบ้าน ร่วมกับชุมชน สถานที่ทำงานส่วนใหญ่คือหมู่บ้านและชุมชน การเรียนรู้คน การเรียนรู้งาน และการเรียนรู้พื้นที่ เป็นสิ่งสำคัญมากกับข้าพเจ้าในการเริ่มต้นกับการเป็นพัฒนากร

เนื่องจากงานด้านพัฒนาชุมชนต้องศึกษาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ให้รับทราบถึงปัญหาของชุมชนที่ต้องการแก้ไขให้ได้ การศึกษาหาข้อมูลเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาชุมชนเพื่อที่จะไป อธิบายให้ความรู้และถ่ายทอดให้แก่ชาวบ้าน อีกอย่างที่สำคัญคือการออกพื้นที่ไปติดต่อประสานงาน ต้องทำความรู้จักกับผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาชุมชน เช่น อง๕การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล เกษตรอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ เป็นต้น เพื่อง่ายต่อการทำงานในพื้นที่

สิ่งที่ได้การออกพื้นที่ไปกับพัฒนาการอำเภอและพัฒนากรรุ่นพี่ที่อยู่ในพื้นที่ แต่ละครั้งที่ ออกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในตำบลที่ตนเองรับผิดชอบหรือพื้นที่ตำบลอื่น ข้าพเจ้าจะพยายามเรียนรู้งานในชุมชนว่ามีอะไรบ้าง ศึกษาพื้นที่นั้นๆ ว่ามีสภาพพื้นที่เป็นอย่างไร ชาวบ้านมี สภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตเป็นเช่นไร ชุมชนเป็นเช่นไร มีปัญหาอะไรบ้าง เรียนรู้ถึงสภาพแวดล้อม ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นหลักในชุมชน และพยายามศึกษาเรียนรู้งานพัฒนาชุมชน ว่ามีอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไร

โดยจะมีพัฒนาการอำเภอและพัฒนากรรุ่นพี่คอยเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนงานให้ทั้งในส่วนของงานสำนักงานและงานในชุมชนที่จะต้องลงไปทำในพื้นที่ มีบางครั้งที่ตัวเองรู้สึกว่างานพัฒนาชุมชนมีมีหลายด้านมาก ไม่ใช่เพียงแค่งานในชุมชนเท่านั้น แต่ยังมีงานในสำนักงานที่ต้องรับผิดชอบอีกด้วย แต่ไม่เคยรู้สึกท้อกับงานที่ต้องทำ และยังได้กำลังใจจากพี่ ๆ พัฒนากรรุ่นพี่ในและต่างอำเภอ ที่คอยถามไถ่อยู่เสมอ ว่าเป็นยังไงบ้าง และจะให้คำแนะนำและแง่คิดในการทำงาน ถ้าเราไม่สู้ก็จะแพ้ตลอดไป ทุกอย่างอยู่ที่ใจ พยายามคิดในแง่บวกเข้าไว้ว่าปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาหรือเกิดขึ้นกับเราให้คิดซะว่าเป็นบททดสอบหนึ่งให้เราได้เรียนรู้ ให้เราก้าวผ่านไปให้ได้ ถ้าเราสามารถผ่านมันไปได้ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่แกร่งและโตขึ้นไปอีกก้าว คงไม่มีใครทุกคนเกิดมาได้ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดหรือชอบ

บางครั้งก็ต้องฝืนอยู่ฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบหรือไม่ถนัดบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับตัวให้อยู่กับงานได้มากน้อยแค่ไหน ต้องคิดไว้เสมอว่าไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคนเรา เมื่อเลือกที่จะอยู่ที่จะทำ ต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ดีที่สุด สุดความสามารถ ต้องคิดเสมอว่างานพัฒนาชุมชนคือการท้าทายความสามารถให้เราได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้สัมผัส อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์

ถ้าเราผ่านการเป็นพัฒนากรไปได้ ก็คงไม่มีงานที่ไหนที่จะยากสำหรับเราแล้ว เพราะงานพัฒนาชุมชนเป็นงานที่มีความหลากหลาย สอนเราหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง ให้เราได้โตขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักเปิดใจยอมรับ คิดในแง่บวกว่าเราต้องทำได้ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไป ท้อได้แต่อย่าถอย ถ้าเราไม่ลองสู้ เราก็จะไม่มีวันชนะ ชนะงาน ชนะคนอื่น ก็ไม่เท่ากับชนะใจตัวเราเอง

สิ่งที่นำมาปรับใช้ในการทำงานให้มีความสุข ก็คือ
๑. ปรับตัว ปรับใจ ยอมรับกับสิ่งที่ทำ สิ่งที่เป็นสิ่งที่อยู่
๒. เปิดใจในการทำงานให้กว้าง มองโลกในด้านบวกเข้าไว้ ไม่คิดอะไรแบบสุดโต่ง
๓. คิดไว้ว่าปัญหาอุปสรรคคือบททดสอบหนึ่งของชีวิต เราต้องฟันฝ่าไปให้ได้
๔. พัฒนาตนเอง ก่อนที่จะไปพัฒนาคนอื่น

๕. คิดบวก มองโลกในแง่ดี ทุกคนมีศักยภาพ มีความสามารถในตนเอง คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ให้เริ่มจากตัวเราเองก่อน

๖. มุ่งมั่นกับสิ่งงานที่ทำ
ทำให้ดีที่สุด สุดความสามารถเท่าที่เราจะทำได้


นายณัฐพล ปาลิวนิช
นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแปลงยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น