วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การศึกษาดูงานของผู้นำชุมชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


ชื่อ–สกุล  นายธีรยุทธ เปลี่ยนผัน
ตำแหน่ง  นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางคล้า
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก 08-9773-7174
เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ    อาชีพรายได้ของผู้นำชุมชน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ  มีนาคม 2551
สถานที่เกิดเหตุ  อำเภอบางปะกง

ตามที่อำเภอบางปะกงได้มอบหมายให้ข้าพเจ้า รับงานผิดชอบประสานงานตำบลหอมศีล ซึ่งเป็นตำบลที่มีรายได้เฉลี่ยของประชากรข้อนข้างต่ำ และมีผู้นำกลุ่มองค์กร ที่ค้อนข้างเข้มแข็ง พร้อมที่จะรับรู้และสร้างประสบการณ์กับการทำงานในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะ ผู้นำ อช.เป็นผู้ประสานงานในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในตำบล และได้กลุ่มองค์กรสตรีเข้าร่วมในการดำเนินกิจกรรม

ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน(ผู้นำ อช.หญิง) ได้ติดต่อประสานงานผ่านมายังข้าพเจ้า ว่าจะทำอย่างไรในการที่จะให้สมาชิกกลุ่มต่างๆ มีความรู้ด้านอาชีพ และ และสามารถรักษาสภาพแวดล้อมของหมู่บ้าน ชุมชนของเราไว้ได้ด้วย ข้าพเจ้าจึงแนะนำไปว่า ขอดูความเข้มแข็งของกลุ่มองค์กรก่อน โดยนัดประชุมเพื่อดูความพร้อม และประสานของบประมาณ ในการดำเนินงานก่อน

ในทางปฏิบัติ ข้าพเจ้าในฐานะพัฒนากรประสานงานตำบลหอมศีล ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มองค์กรในตำบล ซึ่งในวันที่มีการประชุมเตรียมความพร้อม มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมประมาณ 60-70 คน โดยได้รับความร่มมือจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหอมศีล ให้ใช้ห้องประชุม และได้รับฟังข้อคิดเห็นจากสมาชิก และปัญหาต่างๆของหมู่บ้านที่มาจาการบอกเล่าจากสมาชิกกลุ่ม พอที่จะสรุปได้ว่า อยากไปทัศนะศึกษาดูงาน ด้านอาชีพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของการดำเนินกิจกรรมนี้ โดยประสานของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลหอมศีล เป็นเงิน 50,000 บาท(ห้าหมื่นบาทถ้วน)ในการอบรมและทัศนะศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี

บันทึกความรู้
1. ในการการจัดทำงาน/กิจกรรมต่างๆ ต้องให้ชุมชนต้องการจึงจะได้ประโยชน์
2. ต้องมีการอบรมให้ความรู้ทางวิชาการก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการทัศนะศึกษาดูงานและสามารถสอบถามผู้ที่ให้ความรู้ได้
3. ต้องไปทัศนะศึกษาในสถานที่สามารถนำกลับมาทำได้จริง มิใช่แหล่งวิชาการ

สิ่งที่ได้รับหลังการทัศนะศึกษาดูงาน
1. สมาชิกกลุ่มองค์กรนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานนำมาปฏิบัติ จนสามารถเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้  ตัวอย่างเช่น อาชีพ ปลูกผักกระเฉด ในกระชัง  ซึ่งสามารถทำได้ทั้งปี เนื่องจากมีการควบคุมปริมาณน้ำและการแตกยอดได้ และทำให้ครอบครัวนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาจากก่อน และเพียงพอสำหรับเป็นค่าอาหาร ในแต่ละวัน
2. การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ มีการจัดสรรบริเวณบ้านพักอาศัย ให้ใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การปลูกต้นไม้ 3 อย่าง (3ชั้น) การปลูกต้นไม้แบบเกื้อกูลกัน การแบ่งพื้นที่ในการเก็บกักน้ำ การบำบัดน้ำเสียและการใช้ประโยชน์จากน้ำเสีย ซึ่งก่อนไปศึกษาดูงานจะไม่มีการทำและวางแผนจะทำ
3. การจัดการสิ่งแวดล้อม มีการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ ยกตัวอย่างเช่นการกำจัดขยะมูลฝอย มีการคัดแยกขยะที่มาจากธรรมชาติ และขยะสังเคราะห์ และมีการใช้จุลินทรีย์ในการกำจัดขยะจากธรรมชาติ  มีการคัดแยกขยะที่เปลี่ยนเป็นเงินได้เช่น พลาสติก ขวดแก้ว ขวดพลาสติก

การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสู่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นฐานนำสู่เศรษฐกิจพอเพียง ถ้าหากพื้นที่หมู่บ้านตำบลไม่มีการปรับปรุง ดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทำให้ครัวเรือนขาดรายได้และต้นทุนการผลิตในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชาชน สูงมาขึ้น ทำให้ค่าครอชีพของครัวเรือนไม่พอใช้จ่าย ในเมื่อประชาชนในหมู่บ้าน มีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่นการทำปุ๋ยชีวภาพ(น้ำหมักชีวภาพ) มีการพัฒนาสภาพพื้นที่ให้เหมาะสม สามรถใช้ประโยชน์ได้ จะทำให้ครัวเรือนมีอาชีพรายได้ และสามารถลดรายจ่ายและสามรถเพิ่มรายได้จากทรัพยากรธรรมติและสิ่งแวด้ล้อมได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น