ชื่อ
– สกุล สิบเอกสมพงษ์ นาคสาคร
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางคล้า
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก 08 - 3103 - 8838
เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ อาชีพรายได้ของประชาชนในหมู่บ้าน/ชมชน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2542 – กรกฎาคม 2544
สถานที่เกิดเหตุ บ้านท่าแพ ม.4 ต.บางศาลา อ.ปากพนัง
จ.นครศรีธรรมราช
ตามที่อำเภอปากพนัง ให้ข้าพเจ้าเป็นพัฒนากรผู้ประสานงาน ตำบลบางศาลา
มี ๙ หมู่บ้าน โดยมี นายจวน ศรีเจริญ
เป็นกำนัน (เป็นผู้มีอิทธิพล/ซุ้มมือปืน) ในขณะนั้นมีเรื่องยิงกันในพื้นที่อยู่บ่อย
ๆ ตำบลบางศาลาเป็นตำบลที่มีรายได้เฉลี่ยของประชาชน ปานกลาง ถึงรายได้มาก
เนื่องจากชาวบ้านได้มีการทำนากุ้งกุลาดำแบบพัฒนา(เป็นนาที่บุกเบิกใหม่ระบบนิเวศยังอุดมสมบูรณ์อยู่) ผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง วิถีชีวิตของประชาชนในตำบลชอบเล่นการพนันเป็นนิจ
( เช่น ปอปั่น,ไฮโล,ชนวัว,ชนไก่.กัดปลากัด,หวยเถื่อน)
บ้านท่าแพ
หมู่ที่4 ตำบลบางศาลา
เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ได้รับงบประมาณโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน เมื่อ ปี 2538
โดยมีนายจวน ศรีเจริญ เป็นกำนันเป็นผู้ปกครองท้องที่
และเป็นประธานโครงการโดยตำแหน่ง ครัวเรือนยืมเงินได้มีมติเห็นชอบให้ทำโครงการเลี้ยงสุกร
โดยครัวเรือนยืมเงินแล้วนำให้กำนันเป็นผู้บริหารโครงการ สถานที่ตั้งโครงการ
ได้ใช้บริเวณบ้านกำนันเป็นที่เลี้ยงสุกร
ผลสรุปโครงการ ฯ ปรากฏว่าโครงการล้มเหลว
(กำนันซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลไดนำเงินที่ขายสุกรได้ไปใช้ส่วนตัวจนหมดแล้วบอกครัวเรือนยืมเงินว่าขาดทุน)
ข้าพเจ้าซึ่งย้ายไปจากจังหวัดสระแก้ว
ไปประจำที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนร่วมงานเค้ารู้ข้อมูลตำบลนี้ดีอยู่แล้วว่าตำบลนี้ทำงานยาก
เค้าก็ใจดียกตำบลบางศาลาให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ประสานงาน
และเมื่อได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่แล้วข้าพเจ้าก็ใช้ หลักการ
วิธีการ และกระบวนการพัฒนาชุมชน (พึ่งอบรมพัฒนาก่อนประจำการ
ณ.วิทยาลัยการพัฒนาชุมชนอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มาใหม่ ๆ พ.ศ.2542)
ข้าพเจ้าจึงวางแผนเข้าหากำนันเอียด ศรีเจริญ
โดยจัดให้มีการประชุมภายในตำบลแล้วก็ไปเชิญกำนันเข้าร่วมประชุมด้วยแทบทุกครั้ง
แต่ละครั้งกำนั้นจะพร้อมอาวุธเต็มอัตรา
(ก่อนหน้านั้นกำนันยิงกับสมาชิกสภาจังหวัดอยู่ก่อนแล้ว )
นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของข้าพเจ้า
การเข้าทำงานในพื้นที่แต่ละครั้งจะใช้รถจักรยานยนต์เพราะว่าทางลำบากมากเป็นผิวทางลูกรัง ต่อมาชาวบ้านและผู้นำชุมชนที่เป็นห่วงข้าพเจ้ากลัวว่าพัฒนากรจะถูกลูกหลงไปกับกำนันด้วยก็เตือนว่าที่หลังอย่ารับกำนันเอียดไปไหนด้วย
เพราะว่าทีมงาน สมาชิกสภาจังหวัดเขากำลังตามล้างแค้นกันอยู่
หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ลดการพากำนันออกประชุมในตำบล
แล้วเวลามีข้อราชการข้าพเจ้าก็จะไปที่บ้านกำนันเอียด ก่อนเป็นลำดับแรกก็ไปหารือกับกำนัน
แล้วกำนันก็ให้คนสนิทไปตาม
กลุ่มเป้าหมายมาคุยกับเรา
งานในพื้นที่ทั้ง 9 หมู่บ้านก็ราบรื่นไปด้วยดี
โดยเฉพาะงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนบ้านท่าแพ หมูที่ 4
ข้าพเจ้าก็พูดคุยกับกำนัน โดยกำนันนำส่งเงินคืนงวดแรก จำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน)
แล้วทำสัญญาคืนเงินเป็นงวด โดยกำนันลงนามในสัญญา กับ พัฒนาการอำเภอ
โดยมีข้าพเจ้าเป็นผู้บันทึกสัญญา หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ย้ายไปรับราชการบนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช
บันทึกขุมความรู้
1. ผู้นำชุมชนที่มีอิทธิพลสามารถทำให้โครงการต่าง ๆ
ของภาครัฐไม่ประสพความสำเร็จได้
2. งานพัฒนาชุมชนจะสำเร็จได้และยั่งยืน
จะต้องประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ผู้มีส่วนได้เสีย
เข้าใจเสียก่อนถึงจะทำโครงการ
3. ประชาชนในชุมชนยังเกรงกลัวต่อผู้นำชุมชน
4.
ประชาชนในชุมชนยังมีความเอื้ออาธรกันภายในชุมชน
บันทึกแก่นความรู้
1. เทคนิคในการทำงานกับผู้นำชุมชน
2. การเข้าถึงผู้ชุมชนโดยระยะเวลาเป็นเครื่องมือ
3.
การทำให้ผู้นำชุมชนและประชาชนยอมรับในตัวพัฒนากรผู้ประสานงานตำบลเพื่อนำไปสู่งานและกิจกรรมพัฒนาชุมชนจนประสพผลสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น