ชื่อ...นางอมรา วงศ์ศรีรัตน์
ตำแหน่ง...นักวิชาการพัฒนาชุมชน ชำนาญการ
สังกัด...สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางน้ำเปรี้ยว
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวก...089-7542866
เหตุการณ์นี้บันทึกเป็นความรู้จากการปฏิบัติงาน
เมื่อดำรงตำแหน่งพัฒนากร(นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ)
อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
เนื้อเรื่อง
ความรู้ในการปฏิบัติงานต่อไปนี้ เกิดจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า
ที่ได้ปฏิบัติงานพัฒนาชุมชน
ด้านการส่งเสริมชุมชนสู่วิถีชีวิตภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งมาจากการวิเคราะห์สถานการณ์ชุมชนแบบมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
เพื่อค้นหากลยุทธ์การขับเคลื่อนไปสู่ความมีวิถีชุมชนแบบพอเพียง ที่มีความเหมาะสม โดย“วิถีชีวิตชุมชนพอเพียง” ในที่นี่ หมายถึงชุมชนที่น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต แล้วประสบความสำเร็จ
จนน่าจะสามารถเป็นต้นแบบให้ชุมชน
หรือหมู่บ้านอื่นในเขตที่รับผิดชอบต่อไปได้
บันทึกขุมความรู้
การขับเคลื่อนอยู่บนรากฐานของการมีส่วนร่วมของชุมชน
มีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
ขั้นเตรียมการ
1) จัดทำฐานข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมและเทคนิค SWOT
2) สร้างทีมส่งเสริมกระบวนการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดยการบูรณาการจากภาคีทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ/เอกชน และภาคประชาสังคม โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม แนวคิดการประสานงาน
การประชุมกำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนฯ การสร้างความรู้ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คณะทำงานส่งเสริมฯ
มีความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
3) สร้างวาระชุมชน กระตุ้นปลุกเร้าผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเกิดความตระหนัก โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม การประสานงาน ทำให้ผู้เกี่ยวข้องเกิดจิตสำนึกให้ความสำคัญตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นปฏิบัติงาน
1) สร้างกลไกระดับหมู่บ้าน คือ
ชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงระดับหมู่บ้าน ผู้นำ/กลุ่ม องค์กรและประชาชน
ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชุดปฏิบัติการ
โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม ทำให้เกิดชุดปฏิบัติการ 1
ชุด ที่มีความรอบรู้ความเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2) จัดเวทีประชาคมหมู่บ้าน โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม เทคนิค SWOT AIC
แล้วใช้กระบวนการเรียนรู้
4 ฐาน สู่เศรษฐกิจพอเพียง(ตามแนวทางกระทรวงมหาดไทย)
ผลชาวบ้านเรียนรู้ตนเอง , เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ,
รู้แหล่งทุนและรู้กระบวนการพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
3) จัดทำแผนชีวิตชุมชน ใช้หลักการมีส่วนร่วม แนวคิดการประสานงาน เทคนิค
SWOT ทำให้หมู่บ้านมีแผนชุมชนที่มีจุดเน้นสู่วิถีพอเพียง
และได้ดำเนินการตามแผนฯ
4)
จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง/ค้นหาภูมิปัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม แนวคิดการประสานงาน เกิดแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน
ขั้นติดตามประเมินผล
1) ประเมินผลโดยเวทีประชาคม สรุปบทเรียน
ทางเลือกทางรอด ประเมินผล
2) ประเมินตามแบบกระทรวงมหาดไทย 23 ตัวชี้วัด และ ตัวชี้วัด 6X2 ของกรมการพัฒนาชุมชน
3) ติดตามโดยคณะทำงาน สำรวจ/สังเกตุ
โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม
แนวคิดการประสานงาน
ขั้นประชาสัมพันธ์
1) จัดทำเอกสารสรุปผลการดำเนินงาน
โดยประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในหมู่บ้าน/แผ่นพับ/วีดีทัศน์/วิทยุชุมชน
2)
นำผลการดำเนินงานเข้าวาระประชุม องค์การบริหารส่วนตำบล/ประชุมประจำเดือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แก่นความรู้
: สู่กลยุทธ์การขับเคลื่อนให้เกิดผลเชิงรูปธรรม
การนำตัวชี้วัด
6 X 2
เป็นแกนหลักและร่วมสร้างกลยุทธ์อย่างง่ายที่ประชาชนทุกคน ทุกเพศ วัย
สามารถปฏิบัติได้จริง และเกิดผลในการดำเนินชีวิตแบบวิถีพอเพียง ดังนี้
1. กลยุทธ์ด้านการลดรายจ่าย ได้แก่
การวางแผนร่วมกันระหว่างสมาชิกในหมู่บ้านและภาคีการพัฒนาเกิดการมีส่วนร่วม
สร้างแรงจูงใจ โดยให้หมู่บ้านจัดระบบการบริหารจัดการเอง เช่น จัดประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
/จัดสวัสดิการชุมชนจัดซื้อเมล็ดพันธ์ผัก
อาทิเช่นการซื้อเมล็ดพันธ์ผักแจกให้ครัวเรือน/ประชาชนในหมู่บ้านที่ตั้งใจที่ให้ความร่วมมือหากใครสมัครใจเป็นกรรมการในหมู่บ้าน/เข้ากลุ่ม
ก็จะได้เมล็ดพันธ์ผักไปปลูกบริโภคโดยไม่ต้องซื้อ หรือ
ปลูกผักไว้ที่แปลงสาธิตหลากหลายชนิด แลกเปลี่ยนแบ่งปัน ก็จะเกิดการเกื้อกูลกัน
2. กลยุทธ์ด้านการเพิ่มรายได้ ได้แก่
สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มอาชีพเสริมตามความสนใจ
โดยรับสมัครผู้สนใจและฝึกอบรมวิชาชีพตามความต้องการ
โดยอาศัยการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ สอดคล้องกับ
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก ด้านโอกาส ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่หลายหน่วยงาน
เช่น พัฒนาชุมชน/ กศน./ เกษตร/ อบต./สาธารณสุข
ที่พร้อมจะเอื้ออำนวยในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฝึกอบรมวิชาชีพ
เช่น ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน หรือ วิทยาลัยชุมชน เป็นต้น
3. กลยุทธ์ด้านการประหยัดได้แก่ จัดทำโครงการออมด้วยใจภักดิ์
เรารักในหลวง “เก็บออมวันละ 1 บาท” ครบ1 ปีก็จะมีเงินฝาก365 บาท โดยเครือข่ายองค์กรชุมชนภาคตะวันออกและนโยบายของผู้อำนวยการเขต2
จังหวัดชลบุรี ที่จัดทำขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในวโรกาสทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา โดยให้ประชาชนทุก คน ออมเงินใส่กระบอกที่ให้ครัวเรือนเมื่อครบกำหนดจะนำเงินทูลเกล้าถวายในหลวง
กระตุ้นให้ทุกคนมีเป้าหมายในการออม
ออมเพื่ออะไร ออมนานเท่าใด แล้วจึงผ่าออกเพื่อมาดำเนินกิจกรรมนั้นๆ เช่น
หวังไว้ว่าจะออมเพื่อจ่ายค่าเทอมลูก
เป็นต้น เพื่อให้ครัวเรือนเกิดความมุมานะ และภาคภูมิใจ
4. กลยุทธ์ด้านการเรียนรู้ ได้แก่ ฝึกอบรมเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชน ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ของประชาชน ซึ่งกลยุทธ์นี้สอดคล้องกับหลักการของกรมการพัฒนาชุมชน
ที่ได้ให้แนวทางในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชน ซึ่งประกอบด้วย 4 ฐานการเรียนรู้ คือ
เรียนรู้ตนเอง เรียนรู้ภูมิปัญญา เรียนรู้แหล่งทุน และเรียนรู้ชุมชน มีคณะกรรมการ
มีข้อมูล มีสถานที่ มีกิจกรรมการเรียนรู้
โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบและเป้าหมาย
ทำให้มีแหล่งเรียนรู้ ถ่ายทอดภูมิปัญญา
และบันทึกภูมิปัญญาไว้ให้ลูกหลานสืบทอดต่อไป
5.
กลยุทธ์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ได้แก่
การจัดทำโครงการ 1 คน 1 ต้น 1 ปี เพื่อให้ประชาชนรู้คุณค่า รู้สึกรัก หวงแหนต้นไม้และ
โครงการประกวด หน้าบ้านน่ามอง เพื่อกระตุ้นให้คนในบ้านเกิดความรู้สึกอยากดูแลรักษาความสะอาดของบ้านเรือนตนเอง
นอกจากบ้านเรือนตนจะสะอาดน่าอยู่ปลูกต้นไม้น่ามอง แล้ว
ยังได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจอีกด้วย
6. กลยุทธ์ด้านการเอื้ออารีได้แก่
การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน โดยใช้เงินดอกเบี้ยของกองทุนหมู่บ้าน
มาเป็นทุนเบื้องต้นในการจัดสวัสดิการชุมชนรวมทั้ง ประชาคมจัดตั้งกฎระเบียบหมู่บ้านเพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านถือปฏิบัติ
ร่วมกันอย่างสันติสุข สมานฉันท์ และ รู้ รัก สามัคคี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น