เจ้าของความรู้ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสนามชัยเขต
วัตถุประสงค์ของความรู้
เพื่อรู้เท่าทันและป้องกันต่อความบกพร่องอันอาจจะเกิดขึ้นก่อนเกิดความเสียหายต่อกองทุน
รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้กับกองทุนพัฒนาสตรี
ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนของสมาชิกสตรีทั้งจังหวัด
ความเป็นมา
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นนโยบายของรัฐบาล ได้จัดตั้ง “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ขึ้น
มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย
ในการสร้างโอกาสให้สตรีเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับการลงทุน เพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน
สร้างรายได้ หรือสำหรับการส่งเสริมและพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิภาพ
หรือสวัสดิการให้แก่สตรี /เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาศักยภาพสตรีและเครือข่ายสตรี
การเฝ้าระวังและดูแลปัญหาของสตรี
ตลอดจนการช่วยเหลือเยียวยาสตรีที่ประสบปัญหาในทุกรูปแบบ
การรณรงค์ให้สังคมเข้าใจปัญหาสตรีในทุกมิติ และการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี /เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการส่งเสริม
สนับสนุนการจัดกิจกรรมในการพัฒนาบทบาทสตรีและแก้ไขปัญหาสตรีขององค์กรต่าง ๆ
การสร้างภาวะผู้นำ การพัฒนาองค์ความรู้ คุณภาพชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของสตรี /เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการสนับสนุนโครงการอื่นๆที่เป็นการแก้ไขปัญหาและ พัฒนาสตรี ตามที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติพิจารณาเห็นสมควร โดยจัดสรรเงินให้แก่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั้งในระดับจังหวัด
เพื่อนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์
โดยผู้ที่จะได้รับการจัดสรรเงินดังกล่าวต้องเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
โดยเป็นสตรีหรือองค์กรสตรีที่มีการดำเนินงานและมีผลงานเกี่ยวกับการพัฒนา การคุ้มครองช่วยเหลือสตรี
จากการติดตามสนับสนุนการดำเนินงานสมาชิกผู้ขอกู้ทุนหมุนเวียนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในปัจจุบัน พบว่า
มีสมาชิกที่ได้กู้เงินบางส่วนไม่ปฏิบัติตามแนวทางการส่งใช้คืนเงินกู้ตรงตามกำหนดระยะเวลาในการขอกู้เงินจากกองทุน เนื่องจากสาเหตุหลายประการ เช่น
ตั้งใจไม่คืน
ประสบปัญหาความเดือดร้อน หรือจะนำไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์
หรือจากสาเหตุอะไรก็ตาม ดังนั้น เพื่อให้สามารถรู้เท่าทันและป้องกันความเสี่ยงก่อนเกิดความเสียหายอันจะเกิดขึ้นต่อกองทุน
จึงจำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการและวิธีการป้องกันที่ดี อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิก ชุมชน และประเทศชาติอย่างแท้จริง
กระบวนการ/ขั้นตอน
1. ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคนเพื่อให้รับทราบถึงนโยบาย ขั้นตอนการปฏิบัติ
ให้มีความเข้าใจถูกต้องตรงกัน
เพราะที่ผ่านมาอาจรับทราบเพียงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานเท่านั้น
2. เรียกประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลทุกตำบลซักซ้อมความเข้าใจถึงวิธีการดำเนินงานเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน
เกี่ยวกับวิธีการ ขั้นตอนการดำเนินงาน
เอกสาร หลักฐานที่ต้องการทำเพิ่มเติม
โดยทำแนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อปฏิบัติให้เหมือนกันทุกตำบล
3. พิจารณาตั้งผู้แทนจากองค์กรอื่น
เพื่อเป็นการทำงานแบบคู่ขนาน เช่น ผู้นำ
อช./อช./กพสม./กพสต. เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการวิเคราะห์โครงการ ร่วมกับ
คกส.ต. เพราะ
กพสม./กพสต.เป็นองค์กรที่ทำงานอยู่กับเรามานานและเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้น
จะทราบข้อมูลในหมู่บ้านเป็นอย่างดี
4. กำหนดวันให้สมาชิกส่งโครงการของแต่ละตำบล
เช่น สมาชิกผู้ขอกู้เงินต้องส่งโครงการในแต่ละเดือนให้ตำบล ไม่เกินวันที่
20 ของทุกเดือน โดยให้ คกส.ต.ตรวจสอบ เอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน ตามระเบียบและหลักเกณฑ์
ความเป็นไปได้ของโครงการ
5. จนท.พัฒนาชุมชน ร่วมประชุมกับ คกส.ต.
ตรวจสอบโครงการที่สมาชิกเสนอ/ความเป็นไปได้ของโครงการ/ความเสี่ยง และมีการบันทึกการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษร
6. ลงตรวจสอบพื้นทีอีกครั้ง ดูความเป็นไปได้ของโครงการร่วมกับคณะกรรมการ
7. กำหนดวันประชุมระดับอำเภอ กลุ่มเป้าหมาย
ได้แก่ ผู้แทน คกส.ต.ทุกตำบล (อาจจะตำบลละ 4-5 คน) คณะกรรมการวิเคราะห์โครงการ(ตามที่ได้รับการแต่งตั้ง
จากข้อ 3) ผู้แทนหน่วยงาน เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน สมาชิกผู้ยื่นคำขอกู้ เพื่อร่วมกันพิจารณากลั่นกรองระดับอำเภอ เช่น กำหนดทุกวันที่
25 ของทุกเดือน เพื่อปรึกษาหารือและกลั่นกรองโครงการขอรับเงินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน กรรมการหลายคนถอดใจ และไม่มีส่วนร่วมในการประชุม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้มีหลายตำบลทั่วทั้งประเทศมองข้ามการทำงานในรูปของคณะกรรมการไป
โดยเฉพาะผู้แทนของหมู่บ้านที่มีสมาชิกยื่นคำขอกู้เงินจากกองทุนฯ
ต้องเข้าร่วมด้วย
ห้ามขาดประชุมโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นแหล่งข้อมูลในหมู่บ้านเป็นอย่างดี
8. ก่อนการพิจารณาโครงการ
ควรเรียกสมาชิกผู้ขอกู้เงินในรอบเดือนนั้น
รับฟังการชี้แจงรายละเอียด
ขั้นตอนเงื่อนไข เวลาการพิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งสามารถป้องกันการปลอมแปลงเอกสารได้ด้วย
9. ให้
คกส.ต.รวบรวมโครงการที่ขอเสนอกู้ที่ผ่านการเห็นชอบ ในระดับอำเภอ ส่งให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนผู้รับผิดชอบงาน
เป็นผู้รวบรวมส่งต่อให้จังหวัด
ไม่เกิน วันที่ 5
ของทุกเดือน
10. จัดทำระบบการควบคุมโดยการจัดทำทะเบียนรายงวดการอนุมัติเงินกู้ และทะเบียนคุมลูกหนี้แต่รายตำบล เพื่อควบคุมการกู้ – การส่งใช้เงินคืน
ของแต่ละตำบล
11. กรณีได้รับแจ้งผลการอนุมัติโครงการ อำเภอเชิญ คกส.ต. และสมาชิกผู้ขอรับเงิน
ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ
และทำสัญญาเงินกู้
12. ให้เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลตามฐานทะเบียนคุมลูกหนี้ทุกเดือน ว่ากลุ่มไหนใกล้ครบ
กำหนดการชำระคืน
ให้ทำหนังสือแจ้งเตือนสมาชิกผู้กู้
โดยให้ประธาน คกส.ต.ซึ่งเป็นคู่สัญญาแจ้งเตือนล่วงหน้า อย่างน้อย 2-3
เดือน เพื่อช่วยให้สมาชิกผู้กู้ได้รับทราบถึงกำหนดวันชำระคืน
เพื่อให้สมาชิกผู้กู้ได้มีระยะเวลาเตรียมพร้อมในการชำระหนี้
13. กรณีครบกำหนดชำระเงินคืน แต่กลุ่มกู้เงินส่งไม่ตรงตามกำหนด ให้แยกกลุ่มปัญหา ให้ชัดเจน เช่น
กลุ่มที่ตั้งใจไม่คืนเงิน(ไม่ยอมชำระหนี้) กลุ่มที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านการประกอบอาชีพกู้ไปแล้วทำไม่ประสบผลสำเร็จ
(ไม่สามารถชำระหนี้) และกลุ่มที่นำเงินกู้ไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์
เป็นต้น
14.คกสต.และเจ้าหน้าที่ร่วมกันติดตามสนับสนุนอาชีพ
ออกเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่อง มีการปรึกษา แลกเปลี่ยนกัน
ในเวทีประชุมประจำเดือนๆละ 1 ครั้ง
15.กรณีการรับเงินชำระคืนจากสมาชิกผู้กู้
เมื่อ คกสต.ได้รับเงินชำระคืน
ให้ออกใบเสร็จให้ผู้กู้ไว้เป็นหลักฐาน
และนำหลักฐานการรับเงินคืนจากลูกหนี้พร้อมสำเนาใบโอนส่งให้อำเภอ
เพื่อรวบรวมส่งให้จังหวัดต่อไป
ต้องเน้นย้ำให้สมาชิกโอนเข้าบัญชีตำบลเท่านั้น
อย่าให้โอนเข้าบัญชีจังหวัด
และห้ามนำเงินสดมาชำระกับ คกสต. โดยเด็ดขาด
16.กรณีลูกหนี้ผิดนัด ให้ดำเนินการติดตามทวงหนี้การกู้ยืมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เช่น
ประสานทางโทรศัพท์
ทำหนังสือแจ้งเตือน ครั้งที่ 1
ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ออกเยี่ยมบ้าน เป็นต้น
หลังจากออกเยี่ยมบ้านหากไม่มาชำระหนี้ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
17.มีการประชาสัมพันธ์ฯงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้สมาชิกทราบอย่างสม่ำเสมอ
ผลที่เกิดขึ้นในเชิงความสำเร็จ
1. ไม่มีการค้างชำระหนี้ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
หรือ อาจมี แต่ปัญหาน้อยมาก คิดเป็นร้อยละ 1.37
2. สมาชิกได้รับประโยชน์จากโครงการ
จำนวน 73 โครงการ 365 คน คิดเป็นร้อยละ 75.25 จากผูเสนอโครงการทั้งหมด 97 โครงการ
485 คน
3. เป็นการสร้างวินัยทางการเงินให้แก่สมาชิกผู้ได้รับเงินกู้
จากทั้งหมด 73 โครงการ จำนวนเงิน 13,388,045
บาท แยกเป็น
Ø
ส่งตรงตามกำหนด จำนวน 47 โครงการ
คิดเป็นร้อยละ 64.38
Ø ยังไม่ครบกำหนดชำระ จำนวน
25 โครงการ คิดเป็นร้อยละ
34.25
Ø ครบกำหนดแล้วยังไม่ชำระ จำนวน
1 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 1.3
4. เงินกองทุนฯไม่สูญหาย
และมีเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกทุกคนได้เข้าถึงแหล่งทุน
5. มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน
ระหว่างภาคประชาชน กลุ่มองค์กร และ ภาครัฐ
ปัญหา/อุปสรรค
1. คณะกรรมการอยู่ต่างหมู่กัน จัดประชุมยาก หาเวลาตรงกันไม่ได้
2.
กรรมการส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องระเบียบ
วิธีการปฏิบัติ
3. กรรมการไม่มีค่าตอบแทนทำให้กรรมการส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจ
4. กลไกการทำงานของ
คกส.ต.ไม่เข้มแข็ง
5. ระเบียบฯของกองทุน
ทำให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนไม่สามารถเข้าไปดำเนินงานในการบริหารจัดการกองทุนฯได้
6.
กรรมการไม่กล้าตัดสินใจในการพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการ
แม้จะทราบว่ามีความเสี่ยงในการขอรับเงิน
7.
คนทำงานมีน้อย
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1. คณะกรรมการฯต้องปฏิบัติตามระเบียบ
อย่างเคร่งครัด
2. การให้ความร่วมมือของสมาชิกและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกผ่าย
3. การติดตาม สนับสนุน
ให้ความรู้ ของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
4. การประชาสัมพันธ์ในทุกระดับ/ขั้นตอน
ให้สมาชิกได้รับรู้รับทราบ สามารถลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้
5. เอกสารที่สมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วน
จะทำให้กลุ่มและกรรมการได้ตรวจสอบ
ทบทวนถึงเนื้อหาสาระในการปฏิบัติตามโครงการ และสามารถพิจารณาความเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น