ชื่อเรื่อง
สามมิติการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ชื่อ
– นามสกุล
นางศศิฉาย สุคนธฉายา
ตำแหน่ง
นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคลองเขื่อน
จังหวัดฉะเชิงเทรา
กรมการพัฒนาชุมชน
ได้ส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงโดยน้อมนำแนวคิดปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
มาเป็นแนวทางปฏิบัติโดยตั้งแต่ปี 2552 ในการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
มีการขยายผลส่งเสริมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบจากบ้านพี่สู่บ้านน้องอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เป็นต้นแบบใน 3 ระดับ (พออยู่พอกัน
อยู่ดีกินดี มั่งมีศรีสุข) มีหลักเกณฑ์ในการประเมินความสำเร็จผ่านตัวชี้วัดต่าง ๆ
จำนวน 23 ตัวชี้วัด
เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้น
ในการพัฒนาหมู่บ้านแต่ละระดับเปรียบเสมือนการขึ้นบันไดจะมีชานพัก
ให้เห็นภาพเป็นมิติ ๆ ไป ซึ่งสามารถแยกเป็นชานพักเป็น 3 ชานพัก ใน 3 มิติ คือ มิติด้านสังคม
มิติด้านเศรษฐกิจ และมิติด้านอนุรักษ์และเรียนรู้
1.
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ระดับพออยู่พอกิน มิติด้านสังคม มีการสามัคคีและร่วมมือกันของคนในหมู่บ้าน สามารถจัดเวทีประชาคมเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง
ๆ ได้มีข้อปฏิบัติร่วมกันให้คนในชุมชนปฏิบัติ รู้จักรักษาสิทธิและหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย
มิติด้านเศรษฐกิจ ครัวเรือนส่วนใหญ่มีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย และเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มต่าง
ๆ ในหมู่บ้าน มิติด้านอนุรักษ์ มีข้อมูลของชุมชนที่จัดเก็บเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชน
ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและเรียนรู้ มีการวางแผนอนุรักษ์
จัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยใช้กลุ่มองค์กร
2.
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ระดับอยู่ดีกินดี จะต้องมีตัวชี้วัดเพิ่มเติม ดังนี้ มิติด้านสังคม
มีกองทุนสวัสดิการชุมชน การส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรม ที่เป็นรูปธรรม
มิติด้านเศรษฐกิจ มีกิจกรรมลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ส่งเสริมการออมที่เห็นผลชัดเจน มิติด้านอนุรักษ์
มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลหรือแผนชุมชนไปปฏิบัติจริง สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ
และเรียนรู้ด้วยตนเองในระดับหนึ่ง และมีการใช้พลังงานทดแทนที่เหมาะสมในพื้นที่
3.
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ระดับมั่งมีศรีสุข ต้องมีตัวชี้วัดเพิ่มขึ้นอีก คือ มิติด้านสังคม ชุมชนเป็นชุมชนเข้มแข็ง
ปลอดยาเสพติด มีการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติได้จริง มิติด้านเศรษฐกิจ
มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สามารถส่งเสริมผลิตภัณฑ์และกิจกรรมในชุมชนที่ชัดเจน
มิติด้านอนุรักษ์ มีการค้นหาและนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างคุณค่า
สร้างภาคีเครือข่าย และเรียนรู้การพัฒนาที่ชัดเจน และสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น